ชมพู่

ชมพู่ทับทิมจันทร์

ชมพู่เพชรสายรุ้ง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eugenia spp. หรือตามสายพันธุ์
ชื่อสามัญ : Rose Apple (เนื่องจากมีผลคล้ายแอปเปิ้ล และมีกลิ่นหอมเหมือนกุหลาบ), wax apple java apple

ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย
ชมพู่หลายชนิดมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย แล้วค่อยแพร่กระจายเข้าสู่ประเทศในเขตร้อนชื้นต่าง โดยเฉพาะแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย ปัจจุบัน ชมพู่พบปลูกในทุกภาค โดยมีแหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี และสมุทรสาคร ซึ่งสายพันธ์ที่มีการปลูกในไทย ได้แก่
1. Eugenia malaccensis Linn. หรือ Syzygium malaccensis ได้แก่
– ชมพู่มะเหมี่ยว หรือ ชมพู่สาแหรก
2. Eugenia javanica Lamk. หรือ Syzygium samarangense ได้แก่
– ชมพู่แก้มแหม่ม
– ชมพู่สีนาก
– ชมพู่พลาสติก
– ชมพู่กะหลาป๋า
– ชมพู่เพชรบุรี
– ชมพู่ทูลเกล้า
– ชมพู่ทับทิมจันท์
– ชมพู่อื่น ที่บ้านเรานิยมรับประทาน
3. Eugenia jambos L. หรือ Syzygium jambos ได้แก่
– ชมพู่น้ำดอกไม้

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
ลำต้นมีความสูงประมาณ 5-20 เมตร เปลือกลำต้นเรียบหรือขรุขระ มีสีน้ำตาลหรือเทา มักแตกกิ่งก้านสาขาบริเวณใกล้กับโคนต้น

ใบ
ใบชมพู่ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวแบบตรงกันข้าม ใบหนาผิวด้านหลังใบเป็นมันสีเขียวเข้ม และมักเจือด้วยสีแดงหรือม่วง

ดอก
ดอกชมพู่เป็นช่อตามชอกใบ สีดอกแตกต่างกันไปตามพันธุ์อาจจะเป็นสีขาว เหลือง ชมพูหรือแดง ชั้นกลีบเลี้ยงมีจานวน 4-5 กลีบ และอยู่ติดกันเป็นรูปถ้วย ชั้นกลีบดอกมีจานวน 4-5 กลีบ เมื่อดอกบานชั้นกลีบดอกจะหลุดร่วงเป็นแผงคล้ายหมวก เกสรตัวผู้มีจำนวนมากมาย และอับเกสรสีทองอยู่ที่ปลายดอกการออกดอกในประเทศไทยพอจัดได้รุ่นใหญ่ 2 รุ่น รุ่นแรกเริ่มประมาณตุลาคม-พฤศจิกายน รุ่นที่สองเริ่มประมาณกุมภาพันธ์-มีนาคม

ผล และเมล็ด
ผลชมพู่มีลักษณะคล้ายระฆัง ที่ปลายผลมีชั้นของกลีบเลี้ยงรูปถ้วยติดอยู่ตลอด เนื้อ สี รูปร่าง ขนาด และรสชาติแตกต่างกันตามพันธุ์ ส่วนเมล็ด มีตั้งแต่ 1-5 เมล็ด หรืออาจไม่มีเมล็ดแล้วแต่พันธุ์ชมพู่

รูปภาพและข้อมูลอ้างอิง https://puechkaset.com/ชมพู่/

Pusadee Kitisopakul