ติ้ว
รูปจาก https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/137552.html
รูปจาก https://www.technologychaoban.com/folkways/article_2219
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cratoxylum formosum
วงศ์: Clusiaceae (Guttiferae)
ชื่อสามัญ :ติ้วแต้วติ้วขนติ้วเกลี้ยงร้าเง็ง (สุรินทร์; บุรีรัมย์) ; กุยฉ่องเฉ้า (กะเหรี่ยง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ติ้ว หรือ แต้ว เป็นไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก พบมากในป่าเบญจพรรณแถบภาคอีสาน
มี 2 พันธุ์ คือ ดอกสีขาว กับ ดอกสีชมพูซึ่งพันธุ์ดอกสีชมพูนั้นมักจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆใบจะมีขนนุ่มๆ ขมกว่าชนิดดอกสีขาวเล็กน้อยเรือนยอดมักเป็นพุ่มกลมเปลือกต้นสีน้ำตาล อมเทา เมื่อแก่จะแตกเป็นสะเก็ดร่องๆถ้ามีแผลจะมียางสีเหลืองปนแดงซึมออกมาใบรูปไข่กลับรีๆ ยาวประมาณ 3-12 เซนติเมตร
ความสูง: สูงได้ถึง 25 เมตร
ลำต้น: เปลือกสีน้ำตาลไหม้ แตกเป็นสะเก็ด
ใบ: เดี่ยว รูปรีแกมรูปไข่กลับหรือรูปขอบขนาน ออกตรงข้าม ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ยอดใบอ่อนมีสีแดงเรื่อ แผ่นใบเป็นมัน
ดอก: ช่อดอกเป็นช่อกระจุกออกที่ซอกใบ ผลิดอกหลังจากผลัดใบหมดทั้งต้นในช่วงฤดูหนาว กลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ กลีบดอกสีขาวถึงชมพูอ่อน ปลายกลีบมีขนนุ่ม เกสรเพศผู้จำนวนมากและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
ดิน: ดินร่วน ระบายน้ำดี
น้ำ: ปานกลาง ทนแล้ง
แสงแดด: เต็มวัน
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด
การใช้งานและอื่นๆ: เหมาะปลูกเป็นไม้ประดับ ไม่ทนน้ำท่วมขัง นิยมแยกต้นที่เกิดจากรากมาปลูกใหม่ เพราะโตเร็วกว่าเพาะเมล็ด ♦ ยอดและดอกอ่อนมีมากในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว นิยมกินเป็นผักสดกับอาหารหลากชนิด เช่น หมี่กะทิ น้ำพริก แหนมเนือง หรือใส่แกงเลียง แกงเผ็ดต่าง ๆ แกงส้ม ต้มยำ หรือใส่ในซ่าผักอาหารของชาวเหนือ ♦ ใบและยอดอ่อนรสเปรี้ยว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้วิตามินเอ วิตามินบี 2 และไนอะซินสูง ♦ เปลือกต้นใช้ทำสีย้อมผ้ามัดหมี่ให้สีน้ำตาล
ข้อมูลอ้างอิง https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/137552.html
https://www.technologychaoban.com/folkways/article_2219